ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ทำไม 5-MTHF ถึงดีกว่าโฟเลตแบบปกติสำหรับการเสริมสารอาหารในช่วงตั้งครรภ์?

ทำไม 5-MTHF ถึงดีกว่าโฟเลต

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการค้นพบว่า 5-MTHF (5-Methyltetrahydrofolate) ซึ่งเป็นโฟเลตจากธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าโฟเลตแบบปกติในการเสริมสารอาหารในช่วงตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการในตับ [1]  โดยหนึ่งในสารอาหารที่มีความสำคัญมากที่สุดในช่วงตั้งครรภ์คือโฟเลต (Folate) หรือกรดโฟลิก ที่มีส่วนช่วยในการสังเคราะห์ DNA และเซลล์ใหม่ รวมถึงลดความเสี่ยงในการเกิดความพิการแต่กำเนิดของทารก โดยเราได้รวบรวมข้อมูลพร้อมตอบคำถามว่า ทำไม 5-MTHF ถึงดีกว่าโฟเลตแบบปกติสำหรับคุณแม่ช่วงตั้งครรภ์ ไปดูกัน



ทำไม 5-MTHF ถึงดีกว่าโฟเลตแบบปกติสำหรับการเสริมสารอาหารในช่วงตั้งครรภ์

การตั้งครรภ์ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สุดช่วงหนึ่งในชีวิตของผู้หญิง เพราะการดูแลสุขภาพในช่วงนี้ส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการและสุขภาพของทารกในครรภ์ การเสริมโภชนาการที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งหนึ่งในสารอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการคือโฟเลต แต่การเลือก 5-MTHF (5-Methyltetrahydrofolate) ซึ่งเป็นรูปแบบของโฟเลตที่ร่างกายสามารถใช้ได้ทันทีนั้น อาจให้ประโยชน์มากกว่าโฟเลตทั่วไป เพราะอะไร? 


  1. 5-MTHF ดูดซึมได้ดีกว่า

โฟเลตทั่วไปในรูปแบบของกรดโฟลิกจำเป็นต้องผ่านการปรับเปลี่ยนโครงสร้างสารอาหารในตับ แต่ 5-MTHF เป็นสารอาหารรูปแบบที่ร่างกายนำไปใช้ได้ในทันที แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ร่างกายของทุกคนจะมีความสามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างของโฟเลตได้เต็มที่ โดยเฉพาะผู้ที่มีการกลายพันธุ์ของยีน MTHFR ซึ่งส่งผลให้การแปลงสารนี้ทำได้อย่างจำกัด ดังนั้นการเสริมด้วย 5-MTHF จึงช่วยขจัดปัญหานี้ ทำให้สารอาหารถูกดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งพาการแปลงในร่างกาย [2]


  1. 5-MTHF ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะพิการแต่กำเนิด

โฟเลตมีบทบาทสำคัญในการป้องกันภาวะพิการแต่กำเนิด โดยเฉพาะภาวะหลอดประสาทไม่ปิด (Neural Tube Defects - NTDs) ซึ่งเป็นความพิการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างของระบบประสาทในทารก โดยการปิดหลอดประสาทจะเริ่มขึ้นประมาณวันที่ 21 หลังการปฏิสนธิ โดยระดับโฟเลตทั้งหมดในซีรั่มจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงสี่วันแรกในผู้หญิงที่มีระดับโฟเลตไม่เพียงพอ ดังนั้นการเสริมด้วย 5-MTHF ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ได้ทันที ทำให้การป้องกันภาวะนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  1. เพิ่มระดับโฟเลตในเลือดได้ดีกว่า

การเสริมโฟเลตในรูปแบบของ 5-MTHF มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับโฟเลตในเลือดได้ดีกว่ากรดโฟลิกทั่วไป เนื่องจาก 5-MTHF เป็นรูปแบบที่ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที นอกจากนี้ 5-MTHF ยังสามารถผ่านเข้าสู่ระบบเลือดและระบบประสาทได้อย่างง่ายดาย จึงเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาและป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทในทารก [3]


  1. ลดความเสี่ยงในการสะสมโฟเลตส่วนเกิน (UMFA : Unmetabolized Folic Acid)

การใช้กรดโฟลิกในปริมาณสูงอาจทำให้เกิดการสะสมของโฟเลตในร่างกาย เนื่องจากกระบวนการแปลงกรดโฟลิกเป็น 5-Methyltetrahydrofolate (5-MTHF) ต้องอาศัยการทำงานในตับ หากการแปลงนี้ไม่ได้มาตรฐานหรือเกิดข้อผิดพลาด จะทำให้โฟเลตส่วนเกินไม่ถูกนำไปใช้และสะสมในร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะเป็นพิษหรือผลกระทบทางสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์นอกจากนี้ การสะสมของ UMFA (กรดโฟลิกส่วนเกิน) ยังอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของเด็ก เช่น ความเสี่ยงในการเกิดออทิสติก (Autism spectrum disorder: ASD) [4] และโรคเบาหวาน [5] การรับกรดโฟลิกในปริมาณสูงที่ไม่ถูกแปลงอาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพัฒนาการสมองและระบบเมตาบอลิซึมของเด็กได้สำหรับ 5-MTHF นั้น เป็นรูปแบบของโฟเลตที่ไม่ทำให้เกิดการสะสม เพราะมันสามารถถูกนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการแปลงในตับ ทำให้สามารถลดความเสี่ยงของโฟเลตส่วนเกินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

[Cochrane et al., British Journal of Nutrition, July 2024]

ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่า 5-MTHF ทำให้เกิด UMFA น้อยกว่ากรดโฟลิก ซึ่งอาจเป็นข้อดี เนื่องจากมีงานวิจัยบางชิ้นเชื่อมโยง UMFA เข้ากับผลกระทบด้านสุขภาพที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำและภาวะออทิสติกสเปกตรัม อย่างไรก็ตาม การศึกษาเพิ่มเติมยังคงจำเป็นเพื่อยืนยันผลลัพธ์นี้และทำความเข้าใจกลไกที่แน่ชัด

  1. เหมาะสมกับผู้ที่มีภาวะบกพร่องของยีน MTHFR

มีการศึกษาชี้ให้เห็นว่ามีอุบัติการณ์ของการกลายพันธุ์ในยีนนี้สูงถึง 60-70% [6] ในบางประชากรยีน MTHFR มีบทบาทสำคัญในการแปลงกรดโฟลิกให้เป็น 5-MTHF หรือ 5-Methyltetrahydrofolate ซึ่งเป็นรูปแบบที่ร่างกายสามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีการกลายพันธุ์ในยีนนี้ อาจทำให้การแปลงกรดโฟลิกเป็น 5-MTHF เป็นไปได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถใช้โฟเลตในรูปแบบกรดโฟลิกได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควรด้วยเหตุนี้ การเสริมสารอาหารในรูปแบบ 5-MTHF จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจาก 5-MTHF ไม่ต้องพึ่งพาการทำงานของยีน MTHFR ในการแปลงโฟเลต ทำให้ผู้ที่มีการกลายพันธุ์ในยีนนี้สามารถได้รับประโยชน์จากโฟเลตได้อย่างเต็มที่


  1. เสริมสร้างสุขภาพของแม่และทารก

5-MTHF มีประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ เนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงของภาวะโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์ และสนับสนุนพัฒนาการที่สมบูรณ์ของทารก การที่ 5-MTHF เป็นรูปแบบที่ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที ทำให้ประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ดีกว่าโฟเลตทั่วไป


  1. ลดความเสี่ยงของปัญหาทางสุขภาพในทารกหลังคลอด

การเสริม 5-MTHF ในช่วงตั้งครรภ์ไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะพิการแต่กำเนิด แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพในทารกหลังคลอด เช่น ปัญหาเกี่ยวกับพัฒนาการของสมองและระบบประสาท การที่ทารกได้รับโภชนาการที่ดีตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้พวกเขามีสุขภาพที่ดีและพัฒนาการที่สมบูรณ์หลังคลอด


  1. ปรับปรุงประสิทธิภาพในการตั้งครรภ์สำหรับผู้มีบุตรยาก

สำหรับผู้ที่มีปัญหาในการตั้งครรภ์ การเสริม 5-MTHF อาจมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ เนื่องจากมีส่วนช่วยในการสร้างและสนับสนุนกระบวนการสืบพันธุ์ที่สมบูรณ์ การได้รับโฟเลตในรูปแบบที่ดูดซึมได้ทันทีนี้ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ดังนั้น 5-MTHF ถือเป็นทางเลือกที่ดีกว่าโฟเลตทั่วไปในการเสริมสารอาหารในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะพิการแต่กำเนิด เพิ่มระดับโฟเลตในเลือดได้ดีกว่า และเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการแปลงโฟเลต นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ 5-MTHF ในการเสริมสารอาหารจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์และต้องการให้ทารกพัฒนาการอย่างสมบูรณ์